วัคซีนมะเร็งปากมดลูก คืออะไร? ป้องกันได้จริงไหม? ฉีดเมื่อไหร่ดี?

มะเร็งปากมดลู ถือว่าเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของผู้หญิงไทย แต่เราสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูก ซึ่งหลายคนอาจยังไม่เข้าใจว่าวัคซีนนี้ทำงานอย่างไร ฉีดเมื่อไหร่ดี และใครควรฉีดบ้าง

 

วัคซีนมะเร็งปากมดลูกคืออะไร?

วัคซีนมะเร็งปากมดลูกหรือที่เรียกกันทั่วไปว่า วัคซีน HPV (Human Papillomavirus) เป็นวัคซีนที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูก รวมถึงโรคอื่นๆ เช่น หูดหงอนไก่ มะเร็งช่องคลอด มะเร็งทวารหนัก และมะเร็งช่องปาก

 

เชื้อ HPV คืออะไร?

เชื้อ HPV เป็นไวรัสที่สามารถติดต่อผ่านการสัมผัสทางเพศ แม้ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์แบบสอดใส่ก็สามารถติดเชื้อได้ โดยเชื้อนี้มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ แต่มีอยู่ประมาณ 14 สายพันธุ์ที่เสี่ยงต่อการก่อให้เกิดมะเร็ง โดยเฉพาะสายพันธุ์ HPV 16 และ 18 ซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกกว่า 70%

 

ทำไมต้องฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูก?

  • ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งปากมดลูก ได้ถึง 70–90%
  • ป้องกันโรคอื่นที่เกี่ยวข้องกับ HPV เช่น หูดหงอนไก่ มะเร็งช่องคลอด มะเร็งปากช่องคลอด และมะเร็งทวารหนัก
  • ยิ่งฉีดตั้งแต่อายุยังน้อย ยิ่งมีประสิทธิภาพสูง
  • ฉีดเพียงไม่กี่เข็ม แต่ป้องกันโรคร้ายได้ตลอดชีวิต

 

วัคซีนมะเร็งปากมดลูก มีกี่ชนิด?

  • วัคซีนชนิด 2 สายพันธุ์ (Cervarix) – ป้องกัน HPV สายพันธุ์ 16 และ 18
  • วัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ (Gardasil) – ป้องกันสายพันธุ์ 6, 11, 16, 18
  • วัคซีนชนิด 9 สายพันธุ์ (Gardasil 9) – ป้องกันได้ถึง 9 สายพันธุ์ที่เกี่ยวข้องกับโรคร้าย

 

ใครควรฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูก?

  • เด็กหญิงและหญิงวัยรุ่นอายุ 9–14 ปี: เป็นช่วงที่แนะนำให้ฉีดมากที่สุด เพราะยังไม่ได้สัมผัสเชื้อ HPV มาก่อน
  • หญิงอายุ 15–26 ปี: ยังสามารถฉีดได้ และได้ผลดี
  • ผู้หญิงอายุมากกว่า 26 ปี: สามารถฉีดได้เช่นกัน แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
  • ผู้ชาย: แนะนำให้ฉีดเพื่อป้องกันหูดหงอนไก่และลดการแพร่เชื้อ HPV ไปยังคู่นอน

 

ฉีดวัคซีน HPV กี่เข็ม? ต้องฉีดซ้ำไหม?

  • จำนวนเข็มที่ต้องฉีดขึ้นอยู่กับอายุผู้รับวัคซีน
  • อายุผู้ฉีด จำนวนเข็มที่แนะนำ
  • 9–14 ปี 2 เข็ม (ห่างกัน 6–12 เดือน)
  • 15 ปีขึ้นไป 3 เข็ม (0, 1-2, 6 เดือน)
  • ไม่จำเป็นต้องฉีดซ้ำทุกปี หากฉีดครบแล้วจะมีภูมิคุ้มกันในระยะยาวหลายปี

 

ค่าใช้จ่ายในการฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูก

  • วัคซีน 2 สายพันธุ์: เข็มละ 1,800–2,500 บาท
  • วัคซีน 4 สายพันธุ์: เข็มละ 2,500–3,000 บาท
  • วัคซีน 9 สายพันธุ์: เข็มละ 3,500–4,500 บาท

 

ข้อสรุป

การฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูก เป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุดโดยเฉพาะในวัยเด็กและวัยรุ่น ยิ่งฉีดเร็ว ยิ่งมีประสิทธิภาพสูง การป้องกันดีกว่าการรักษาเสมอ หากยังไม่เคยฉีดวัคซีน HPV ควรปรึกษาแพทย์หรือสถานพยาบาลใกล้บ้านเพื่อความปลอดภัย

เป็นตะคริวบ่อย เรื่องเล็กน้อยที่ไม่ควรมองข้าม

ตะคริว คืออะไร

ตะคริว คือ ภาวะที่กล้ามเนื้อเกิดการหดเกร็งอย่างกะทันหัน และไม่สามารถคลายตัวได้ตามปกติ มักเกิดขึ้นบริเวณน่อง เท้า ต้นขา หรือบางครั้งในมือและนิ้ว ซึ่งสร้างความเจ็บปวดเฉียบพลันและรุนแรง อาการมักกินเวลาตั้งแต่ไม่กี่วินาทีจนถึงหลาย ๆ นาที แล้วค่อย ๆ คลายตัว บางรายอาจเกิดซ้ำในระยะเวลาใกล้เคียงกัน ทำให้ผู้ที่เป็นตะคริวบ่อย อาจรู้สึกไม่มั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน ระแวงว่าจะเป็นตะคริวตอนนอนหลับหรือแม้กระทั่งตอนกำลังออกกำลังกาย

สาเหตุหลักของการเป็นตะคริวบ่อย

  • ร่างกายขาดน้ำและเกลือแร่ ร่างกายที่เสียเหงื่อมากจากการออกกำลังกาย หรือดื่มน้ำน้อยเกินไป ทำให้ระดับแคลเซียม โพแทสเซียม และแมกนีเซียมในเลือดลดลง ส่งผลให้กล้ามเนื้อหดเกร็งผิดปกติ
  • ใช้งานกล้ามเนื้อมากเกินไป การออกกำลังกายหนักโดยไม่วอร์มอัปหรือยืดกล้ามเนื้อให้เพียงพอ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนล้าและเกิดตะคริวได้ง่าย
  • ตั้งครรภ์ คุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนมีอาการ เป็นตะคริวบ่อย เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและภาระที่เพิ่มขึ้นในระบบไหลเวียนเลือด
  • อายุที่มากขึ้น เมื่ออายุมากขึ้น กล้ามเนื้อและเส้นประสาทเสื่อมสภาพ ทำให้โอกาสเกิดตะคริวสูงขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่ไม่ค่อยเคลื่อนไหวร่างกาย
  • การทำท่าทางซ้ำซากหรือนั่งซ้ำท่าเดิมนานเกิดไป เช่น การนั่งพับเพียบ นั่งไขว่ห้าง หรือนั่งกับพื้นนาน ๆ อาจทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี จนกล้ามเนื้อเกิดตะคริว
  • การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาลดความดัน หรือยาคลายกล้ามเนื้อบางชนิด อาจมีผลข้างเคียงทำให้เกิดตะคริวได้

 

เป็นตะคริวบ่อย อันตรายไหม

ขึ้นอยู่กับสาเหตุหากเป็นตะคริวเพียงแค่บางครั้งจากการออกกำลังกายหนัก หรือดื่มน้ำน้อย ส่วนใหญ่มักไม่อันตราย แต่หากเป็นตะคริวบ่อย โดยไม่มีสาเหตุชัดเจน โดยเฉพาะตะคริวตอนกลางคืนหรือตะคริวที่มากับอาการอื่น เช่น ชาตามปลายมือปลายเท้า กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือเหนื่อยง่าย ควรรีบพบแพทย์ทันที เพราะอาจเกี่ยวข้องกับโรคทางระบบประสาท หรือปัญหาไต หัวใจ และระบบไหลเวียนเลือด

 

เทคนิคแก้เมื่อเป็นตะคริว

  • ยืดกล้ามเนื้อที่เป็นตะคริว อย่างเช่น หากเป็นที่น่อง ให้เหยียดขาและดึงปลายเท้าเข้าหาตัวช้า ๆ
  • นวดกล้ามเนื้อเบา ๆ เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว
  • ประคบร้อน เพื่อคลายกล้ามเนื้อ หรือประคบเย็นหากมีอาการปวดร่วม
  • เดินเบา ๆ หรือขยับกล้ามเนื้อส่วนที่เป็นตะคริวหลังจากคลาย เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือด

 

สรุป

การเป็นตะคริวบ่อย จะอันตรายหรือไม่อันตรายขึ้นอยู่กับสาเหตุและอาการร่วมที่เกิดขึ้น แต่โดยปกติทั่วไปแล้วจะไม่อันตราย สามารถหายไปได้เองภายในระยะเวลาไม่นาน แต่ก็ไม่ควรมองข้าม เพราะในหลาย ๆ ครั้งการเป็นตะคริวก็บ่งบอกถึงอาการบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในร่างกาย หากเป็นตะคริวบ่อยจนผิดปกติควรพบแพทย์เพื่อได้รับคำวินิจฉัยที่ถูกต้องและแม่นยำ ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาร้ายแรง

เหมารถตู้ไปนครนายก สำหรับการเดินทางที่แสนสะดวกสบาย

เมื่อพูดถึงการท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่สามารถไปเช้าเย็นกลับได้ นครนายกคือจังหวัดที่หลายคนนึกถึงเป็นอันดับแรก ด้วยระยะทางเพียง 105 กิโลเมตรจากกรุงเทพฯ และสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลายตั้งแต่น้ำตกสวยงาม วัดศักดิ์สิทธิ์ ไปจนถึงฟาร์มท่องเที่ยวที่น่าสนใจ การเลือกเหมารถตู้ไปนครนายกจึงกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทาง

ความสะดวกของการเหมารถตู้ไปนครนายก

การเหมารถตู้ไปนครนายกเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการเดินทางเป็นกลุ่ม เพราะไม่เพียงแต่จะประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับการเดินทางด้วยรถส่วนตัว แต่ยังได้ความสะดวกสบายจากการมีคนขับมืออาชีพที่คุ้นเคยกับเส้นทาง บริการเหมารถตู้ส่วนใหญ่จะมีรถให้เลือกหลายขนาด ตั้งแต่รถตู้ VIP 9-10 ที่นั่ง ไปจนถึงรถตู้หรูอย่าง Toyota Alphard สำหรับกลุ่มเล็ก

ข้อดีของการเหมารถตู้คือคุณสามารถกำหนดเวลาเดินทางและสถานที่ท่องเที่ยวได้ตามต้องการ  ไม่ต้องรีบเร่งตามเวลารถประจำทางหรือต้องขับรถเหนื่อยๆ เอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเดินทางไปเที่ยวหลายที่ในวันเดียว การมีรถตู้เหมาจะช่วยให้การเดินทางราบรื่นและไม่เสียเวลา

ราคาเหมารถตู้ไปนครนายกในปัจจุบัน

ราคาเหมารถตู้ไปนครนายกจะแตกต่างกันไปตามประเภทของรถและระยะเวลาการเช่า สำหรับรถตู้ VIP ขนาด 9-10 ที่นั่ง ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 1,800-2,000 บาทต่อวัน ในขณะที่รถตู้ VVIP ขนาด 7-9 ที่นั่งจะมีราคาเริ่มต้นที่ 2,500 บาทต่อวัน

สำหรับรถหรูอย่าง Toyota Alphard ราคาจะสูงขึ้นไปที่ 6,500-7,500 บาทต่อวัน ทั้งนี้ราคาดังกล่าวยังไม่รวมค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน และค่าจอดรถ หากเดินทางข้ามคืนจะมีค่าที่พักคนขับเพิ่มเติมอีกประมาณ 500-800 บาทต่อคืน

เส้นทางการเดินทางไปนครนายก

การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปนครนายกมีเส้นทางหลักอยู่ 2 เส้นทาง เส้นทางแรกคือใช้ทางหลวงหมายเลข 305 ถนนเลียบคลองรังสิต-นครนายก ผ่านอำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ระยะทางประมาณ 105 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที เส้นทางนี้เป็นที่นิยมเพราะเป็นเส้นทางตรงและไม่ผ่านเมือง

เส้นทางที่สองคือใช้ทางหลวงหมายเลข 1 แล้วเลี้ยวขวาที่แยกหินกองไปตามถนนสุวรรณศร ทางหลวงหมายเลข 33 ระยะทางประมาณ 137 กิโลเมตร แม้จะอ้อมกว่า แต่เส้นทางนี้จะผ่านทิวทัศน์ชนบทที่สวยงาม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการชมวิวระหว่างทาง

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในนครนายก

น้ำตกและแหล่งธรรมชาติ

นครนายกมีน้ำตกสวยงามหลายแห่งที่น่าสนใจ น้ำตกสาริกาเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มี 9 ชั้น ความสูงถึง 100 เมตร มีจุดให้ลงเล่นน้ำหลายจุด ขณะที่น้ำตกนางรองตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นน้ำตกที่ลดหลั่นเป็นชั้นๆ เหมาะสำหรับการเล่นน้ำ

น้ำตกช่องลมที่ตั้งอยู่ภายในเขื่อนขุนด่านปราการชลเป็นอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจ การเดินทางไปต้องนั่งเรือจากบริเวณที่ทำการเขื่อน ค่าบริการเริ่มต้นที่ 200 บาทต่อคน บรรยากาศรอบน้ำตกมีความร่มรื่นและเย็นสบาย เหมาะสำหรับการพักผ่อน

วัดและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์

วัดหลวงพ่อปากแดงหรือวัดพราหมณีเป็นวัดเก่าแก่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์สูง หลวงพ่อปากแดงเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิที่มีพระโอษฐ์สีแดงเห็นได้ชัด ชาวบ้านเชื่อว่าการมาไหว้จะได้รับความเป็นสิริมงคล

อุทยานพระพิฆเนศนครนายกเป็นอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจ ที่นี่มีพระพิฆเนศองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมด้วยพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมองค์พระพิฆเนศ 108 ปาง เป็นสถานที่ที่สายมูไม่ควรพลาด

สถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร

เอเดนฟาร์มเป็นฟาร์มท่องเที่ยวที่เน้นธรรมชาติและเกษตรอินทรีย์ จุดเด่นคือร่มหลากสีสันนับร้อยคันที่แขวนอยู่เหนือทุ่งนา พร้อมด้วยสะพานไม้ไผ่ให้เดินเล่นชมบรรยากาศแบบบ้านทุ่ง นอกจากนี้ยังมีฟาร์มหอยทากให้เรียนรู้อีกด้วย

สะพานทุ่งนามุ้ยเป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่ได้รับความนิยม เป็นสะพานไม้ที่ทอดยาวโค้งไปมาในทุ่งนาสีเขียวชอุ่ม ตัวสะพานอยู่เหนือยอดข้าวเพียงนิดเดียว ทำให้รู้สึกเหมือนได้เดินลุยไปในท้องนา

ข้อควรระวังและเคล็ดลับในการเหมารถตู้

การเตรียมตัวก่อนเดินทาง

ก่อนจองรถตู้ควรวางแผนการเดินทางให้ชัดเจน รวมถึงสถานที่ที่ต้องการไป เวลาเดินทาง และจำนวนผู้โดยสาร การจองล่วงหน้าจะช่วยให้ได้ราคาที่ดีกว่า และมั่นใจว่าจะมีรถให้บริการในวันที่ต้องการ

ควรสอบถามรายละเอียดค่าใช้จ่ายให้ชัดเจน ว่ารวมค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน และค่าจอดรถหรือไม่ บางบริษัทจะคิดค่าใช้จ่ายเหล่านี้แยกต่างหาก ซึ่งอาจทำให้ค่าใช้จ่ายรวมสูงกว่าที่คาดไว้

การเลือกบริษัทให้บริการ

ควรเลือกบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือและมีประสบการณ์ในการให้บริการ อ่านรีวิวจากลูกค้าที่เคยใช้บริการ และสอบถามเกี่ยวกับสภาพรถและคุณสมบัติของคนขับ คนขับที่มีประสบการณ์และรู้จักเส้นทางดีจะช่วยให้การเดินทางปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น

ควรตรวจสอบเอกสารต่างๆ ของบริษัท เช่น ใบอนุญาตประกอบกิจการ ประกันภัยรถยนต์ และใบขับขี่ของคนขับ เพื่อความมั่นใจในการใช้บริการ

ทางเลือกอื่นในการเดินทางไปนครนายก

รถประจำทาง

หากต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย สามารถเลือกเดินทางด้วยรถประจำทางได้ มีรถออกจากสถานีขนส่งหมอชิต 2 ทุกวัน โดยเที่ยวแรกเริ่มเวลา 04.30 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ค่าโดยสารอยู่ที่ประมาณ 617-740 บาท

รถยนต์ส่วนตัว

การขับรถไปเองก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ระยะทางประมาณ 66.5 ไมล์ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 34 นาที ค่าใช้จ่ายเฉพาะน้ำมันประมาณ 13-18 ดอลลาร์ แต่ต้องคำนึงถึงความเมื่อยล้าจากการขับรถและการหาที่จอดรถในแหล่งท่องเที่ยว

บทสรุป

การเหมารถตู้ไปนครนายกเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการท่องเที่ยวเป็นกลุ่ม ให้ความสะดวกสบายและความคุ้มค่า ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย นครนายกจึงเป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับการเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับ การเตรียมตัวและวางแผนที่ดีจะช่วยให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ประสบการณ์ที่น่าจดจำ

หมดกังวลเรื่องขับรถ! SP SMART VAN พร้อมดูแลคุณทุกเส้นทาง

หากคุณเคยปวดหัวกับการต้องวนหาที่จอดรถ หรือต้องตัดสินใจกันเองในกลุ่มเพื่อนว่าใครจะเป็นโชเฟอร์หลัก ครั้งต่อไปลองพิจารณา “เช่ารถตู้พร้อมคนขับ” ดูสิ เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดเวลา ยังทำให้คุณไม่ต้องแบกรับความเหนื่อยล้าจากการขับรถทางไกลอีกด้วย

เหตุผลที่การเช่ารถตู้พร้อมคนขับเป็นตัวเลือกที่ดี

  1. สะดวกสบาย: ไม่ต้องห่วงเรื่องหลงทาง หรือเสี่ยงโดนค่าปรับจากการจอดรถไม่ถูกที่

  2. ประหยัดเวลา: สามารถใช้เวลาบนรถไปกับการพักผ่อน คุยงาน หรือแวะชมวิวได้อย่างเต็มที่

  3. ความปลอดภัยสูง: คนขับมืออาชีพมีประสบการณ์ ทำให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องอุบัติเหตุหรือการขับรถเสี่ยง

เลือกใช้บริการจาก SP SMART VAN

SP SMART VAN ไม่ได้มีดีแค่ชื่อ แต่ทีมงานมีความชำนาญด้านการบริการรถตู้อย่างแท้จริง รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างต่อเนื่อง และคนขับก็มีมาตรฐานการทำงานสูง ทั้งสุภาพและขับขี่อย่างรอบคอบ

ตอบทุกความต้องการ

  • ทริปท่องเที่ยวกับครอบครัวหรือเพื่อนสนิท

  • เดินทางเพื่อติดต่อธุรกิจ รับ-ส่งแขกผู้ใหญ่หรือผู้บริหาร

  • รถตู้สำหรับงานอีเวนต์ต่างๆ รวมถึงงานแต่งงาน

  • บริการรับ-ส่งสนามบินสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกแบบไม่ต้องวุ่นวายเรียกรถแท็กซี่

ข้อควรพิจารณาก่อนจอง

  • ประเภทและขนาดรถที่คุณต้องการ

  • ค่าใช้จ่ายรวมถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน

  • เงื่อนไขการยกเลิกหรือเลื่อนวันจอง

  • ความเห็นจากผู้ใช้บริการรายอื่น เพื่อประกอบการตัดสินใจ

เมื่อชั่งน้ำหนักข้อดีทั้งหมด คุณจะพบว่าการใช้ SP SMART VAN คือทางเลือกที่ช่วยให้การเดินทางในวันสำคัญของคุณราบรื่น และเต็มไปด้วยความสบายใจอย่างแท้จริง

แนวทางการเลือกทันตแพทย์เพื่อการครอบฟันที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ

การหาคลินิกฟันเพื่อทำการรักษา ฟันแตก ครอบฟัน ราคาย่อมเยา นั้นเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการเลือกคลินิกและทันตแพทย์ที่มีคุณภาพจะช่วยให้การรักษาของคุณได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีความคงทน สามารถใช้งานไปได้นานๆ ดังนั้นก่อนตัดสินใจครอบฟัน คุณจะต้องคำนึงสิ่งต่างๆ ให้ละเอียด ไม่ว่าจะเป็นความเชี่ยวชาญของทันตแพทย์ วัสดุที่ใช้ในการครอบฟัน ราคาที่เหมาะสม รวมถึงการรับประกันหลังการรักษา เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับการดูแลฟันที่ดีที่สุด ได้ฟันที่สวยงาม และใช้งานไปได้ในระยะยาว โดยสิ่งหลักๆ ที่จะต้องพิจารณามีดังนี้

การทำฟันแตกหรือครอบฟันนั้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีความสวยงาม ทนทาน เรามาดูกันว่าควรพิจารณาอะไรบ้าง

1.คุณภาพของคลินิกและทันตแพทย์

  • ควรเลือกคลินิกที่มีทันตแพทย์ที่ได้รับการรับรองจากสภาทันตแพทย์ของไทย
  • ตรวจสอบประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของทันตแพทย์ในการทำฟันแตกหรือครอบฟัน

2.วัสดุในการทำครอบฟัน

  • วัสดุที่ใช้ในการครอบฟันมีหลายประเภท เช่น เซรามิก, โลหะผสม, หรือเรซิน เลือกวัสดุที่เหมาะสมกับตำแหน่งฟันและงบประมาณ
  • สอบถามถึงรายละเอียดข้อดี ข้อเสียของแต่ละวัสดุจากทันตแพทย์

3.ราคาและค่าใช้จ่าย

  • สอบถามราคาและแพ็คเกจการรักษาล่วงหน้า เพื่อให้คุณวางแผนการใช้เงินได้
  • ตรวจสอบทางคลินิกว่ามีบริการส่วนลดหรือโปรโมชั่นอะไรไหม เผื่อจะประหยัดค่าใช้จ่ายได้

4.การรับประกันหลังการรักษา

  • สอบถามเรื่องการรับประกันสำหรับการครอบฟัน หากฟันแตกหรือมีปัญหาหลังจากการรักษา
  • ตรวจสอบเงื่อนไขของการรับประกันว่าครอบคลุมอะไรบ้าง

5.รีวิวและคำแนะนำ

  • อ่านรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงของคลินิกนั้นๆ เพื่อให้ได้ภาพรวมของการบริการและคุณภาพ
  • ถามความคิดเห็นจากเพื่อนหรือคนรู้จักที่เคยใช้บริการคลินิกนั้นๆ

การครอบฟันราคาจะขึ้นอยู่กับวัสดุที่เลือกใช้ ตำแหน่งของฟัน ความยากง่ายของการทำทันตกรรม ไปจนถึงความเชี่ยวชาญของทันตแพทย์ ซึ่งต้องตัดสินใจปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ในการเลือกคลินิกครอบฟันที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณให้ได้มากที่สุด เนื่องจากการครอบฟันจะมีราคาค่าใช้จ่ายที่สูงตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น การเลือกคลินิกจึงต้องรอบคอบและให้ความสำคัญกับเคสรีวิว รวมถึงการให้คำปรึกษาจากทันตแพทย์โดยตรง มากกว่าการประเมินจากราคาที่ต้องจ่ายเพียงอย่างเดียว

เรียนคอร์ส Power BI ช่วยสร้างรายได้หลากหลายรูปแบบ

Power BI คือเครื่องมือที่ทรงพลังในการทำ Business Intelligence (BI) ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถใช้ข้อมูลภายในองค์กรในการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยใช้การแสดงผลข้อมูลผ่านแผนภาพและแดชบอร์ดที่เข้าใจง่าย เพื่อนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงในกระบวนการตัดสินใจต่างๆ ขององค์กร

 

การเรียนคอร์ส Power BI สามารถช่วยสร้างรายได้ในหลากหลายรูปแบบ ดังนี้:

  1. ทำงานในตำแหน่ง Data Analyst / BI Specialist

  • ใช้ Power BI ในการวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างรายงานเชิงลึก
  • รายได้จากตำแหน่ง Data Analyst สามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่ 30,000-80,000 บาท/เดือน หรือมากกว่าขึ้นอยู่กับประสบการณ์

 

  1. ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างรายงาน (Freelance Consultant)

  • รับงานวิเคราะห์ข้อมูลและออกแบบแดชบอร์ดสำหรับธุรกิจ เช่น การตลาด การขาย หรือการเงิน
  • รายได้จากการรับงานโปรเจกต์อาจอยู่ที่ 10,000-100,000 บาท/โปรเจกต์ ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของงาน

 

  1. การสอนและจัดอบรม (Training & Coaching)

  • จัดคอร์สสอน Power BI ทั้งแบบออนไลน์และสอนสดในองค์กร
  • รายได้จากการสอนสามารถเริ่มต้นที่ 5,000-50,000 บาท/คอร์ส หรือมากกว่านั้นหากสอนองค์กรขนาดใหญ่

 

  1. ขายคอร์สเรียนออนไลน์ (Online Course Creation)

  • สร้างคอร์สเรียน Power BI และจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์ม เช่น SkillLane, Skooldio, Udemy
  • รายได้ขึ้นอยู่กับยอดขายคอร์สและราคาคอร์ส ซึ่งสามารถสร้างรายได้แบบ Passive Income ได้

 

  1. การสร้าง Template และ Dashboard สำเร็จรูป

  • ขายเทมเพลตแดชบอร์ดที่ออกแบบไว้อย่างมืออาชีพ เช่นแดชบอร์ดการขาย, แดชบอร์ดการเงิน
  • รายได้เฉลี่ยสามารถเริ่มต้นตั้งแต่ 1,000-10,000 บาท/เทมเพลต

 

  1. ที่ปรึกษาด้าน Business Intelligence (BI Consultant)

  • ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการวางระบบ BI และการนำ Power BI ไปใช้ในองค์กร
  • รายได้จากการให้คำปรึกษาอาจเริ่มต้นที่ 50,000 บาท/โปรเจกต์ หรือมากกว่า

 

  1. การทำงานอัตโนมัติด้วย Power BI (Automation Specialist)

  • ใช้ Power BI ร่วมกับ Power Automate และ Power Apps ในการสร้างระบบอัตโนมัติให้กับองค์กร
  • รายได้จากงานพัฒนาและปรับแต่งระบบสามารถอยู่ที่ 20,000-100,000 บาท/โปรเจกต์

 

สรุปวิธีสร้างรายได้จากคอร์ส power bi

  • ทำงานสาย Data Analyst/BI Specialist
  • รับจ้างวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างแดชบอร์ด
  • เปิดสอนคอร์สและขายคอร์สออนไลน์
  • ขายเทมเพลตแดชบอร์ดสำเร็จรูป
  • ให้คำปรึกษาด้าน BI Solution

 

ข้อสรุป

คอร์ส power bi นั้นไม่เพียงแค่ช่วยให้องค์กรสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้องค์กรสามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้องค์กรสามารถแข่งขันและประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน Power BI เป็นทักษะที่ตลาดต้องการสูงและสามารถช่วยสร้างรายได้อย่างมั่นคง ทั้งในรูปแบบงานประจำและการทำงานอิสระ (Freelance)

แชร์เคล็ด(ไม่)ลับกับวิธีรักษารอยแตกลาย

รักษารอยแตกลาย

รอยแตกลายที่ผิว คือ

รอยแตกลายที่ผิวหรือที่เรียกว่า “รอยแตกลาย” เกิดขึ้นเมื่อมีการขยายตัวของผิวหนังอย่างรวดเร็วจนทำให้เนื้อเยื่อคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวหนังแตกหัก ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงที่ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือมีน้ำหนักลดลง เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น ช่วงตั้งครรภ์ หรือช่วงที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในวัยรุ่น รอยแตกลายเหล่านี้มักปรากฏเป็นเส้นๆ บนผิวหนัง มีสีที่แตกต่างจากสีผิวปกติ และอาจมีลักษณะนูนหรือบุ๋มลงเล็กน้อย พบได้บ่อยที่ส่วนท้อง สะโพก หน้าอก และต้นขา ในช่วงแรกๆ รอยเหล่านี้อาจมีสีแดง แต่จะค่อยๆ จางลงเป็นสีขาวเมื่อเวลาผ่านไป

 

วิธีรักษารอยแตกลาย

  • รอยแตกลายผิวอาจไม่สามารถหายไปได้โดยสิ้นเชิง แต่มีวิธีการต่างๆ ที่สามารถช่วยลดความเด่นชัดของรอยแตกลายได้ เช่น
  • การทาครีมหรือโลชั่นบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์ สามารถช่วยให้ผิวหนังกลับมายืดหยุ่นและเรียบเนียนขึ้นได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงตั้งครรภ์หรือในขณะที่ให้นมบุตร เนื่องจากอาจมีผลข้างเคียงต่อทารก
  • การทำเลเซอร์ เป็นการรักษารอยแตกลายที่จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนังใหม่ ให้ริ้วรอยแตกลายดูจางลง
  • การรักษาด้วยนวัตกรรมไมโครนีดเดิล ด้ายการใช้เข็มขนาดเล็กทำรอยบาดเล็กๆ บนผิวหนังเพื่อกระตุ้นการซ่อมแซมและผลิตคอลลาเจนใหม่ของผิวหนัง
  • การใช้พลาสม่าที่มีเกล็ดเลือด วิธีนี้เป็นที่นิยมในการช่วยฟื้นฟูผิว โดยการใช้เกล็ดเลือดจากตัวของผู้ป่วยเองเพื่อช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมผิวหนัง
  • การทาวิตามิน E หรือการเลือกครีมที่มีส่วนผสมของอโลเวราจะช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื่น สามารถช่วยลดรอยแตกลายได้
  • การรักษารอยแตกลายด้วย Morpheus8 เป็นเทคนิคการรักษาที่ใช้เทคโนโลยีวิทยาศาสตร์แห่งไมโครเนดลิงผสมผสานกับพลังงานความถี่วิทยุ (RF) ที่ช่วยในการฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวหนังสามารถใช้เพื่อรักษาผิวหนังที่มีรอยแตกลาย รวมทั้งปรับปรุงโครงสร้างผิวหนังโดยรวม ได้แก่ ริ้วรอย แผลเป็น และความหย่อนคล้อยของผิวหนัง

 

การรักษารอยแตกลายด้วย Morpheus8

  • เตรียมผิวก่อนการรักษา ผู้ป่วยจะได้รับการทำความสะอาดผิวและทายาชาที่บริเวณที่จะรักษาเพื่อลดอาการบาดเจ็บในระหว่างขั้นตอนการรักษา
  • การรักษาด้วยเครื่องมือ Morpheus8 จะถูกใช้งานโดยทำการฉีดเข็มขนาดเล็กลงไปในชั้นผิว โดยปล่อยพลังงานความถี่วิทยุไปยังชั้นผิวที่ลึกขึ้น เพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน
  • หลังการรักษา ผิวหนังอาจมีอาการแดงและบวมเล็กน้อยหลังการรักษา แต่โดยปกติอาการเหล่านี้จะค่อยๆ ดีขึ้นและหายไปเองภายในไม่กี่วัน

 

จุดเด่นของการทำ Morpheus8

  • ช่วยลดเลือนรอยแตกลายบนผิวหนัง
  • ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความเรียบเนียนของผิว
  • ช่วยยกกระชับปัญหาผิวหย่อนคล้อย

คำแนะนำสำหรับการรักษารอยแตกลาย ควรเข้ารับการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การมีทักษะ การสื่อสารที่ดีช่วยให้ประสบความสำเร็จ

ทักษะ การสื่อสารคืออะไร ?

การสื่อสารเป็นหนึ่งในทักษะที่สำคัญที่สุดในชีวิตประจำวันและในสถานที่ทำงาน ทักษะ การสื่อสารหรือการมีทักษะการสื่อสารที่ดีช่วยให้เราสามารถแสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนข้อมูล และสร้างความเข้าใจร่วมกับผู้อื่นได้ ทักษะ การสื่อสารมีหลายประเภทของ ซึ่งรวมถึงการสื่อสารแบบเวอร์บัล (คำพูด) การสื่อสารแบบนอนเวอร์บัล (ท่าทาง ภาษากาย) การฟัง และการสื่อสารแบบเขียน การพัฒนาทักษะเหล่านี้สามารถช่วยให้บุคคลประสบความสำเร็จในหลายๆ ด้านของชีวิต

 

ความจำเป็นของทักษะ การสื่อสาร

  1. เสริมสร้างความสัมพันธ์: การมีทักษะ สื่อสารที่ดีช่วยสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นกับเพื่อน ครอบครัว หรือคู่ค้า การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพช่วยลดความเข้าใจผิดและสร้างความไว้วางใจ
  2. ประสิทธิภาพในการทำงาน: ในสถานที่ทำงานทักษะ การสื่อสารที่ดีช่วยให้ทีมทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิผล ช่วยให้การแลกเปลี่ยนข้อมูลเป็นไปอย่างราบรื่น ลดความผิดพลาด และเพิ่มความเข้าใจร่วมกันในการบรรลุเป้าหมาย
  3. การตัดสินใจและการแก้ปัญหา: การมีทักษะ การสื่อสารที่ดีช่วยให้คนสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูล ความคิดเห็น และวิธีการแก้ปัญหาได้ สิ่งนี้เป็นสิ่งจำเป็นในการตัดสินใจที่มีข้อมูลครบถ้วนและในการหาทางแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพ
  4. การเรียนรู้และการพัฒนา: การมีทักษะ การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเปิดโอกาสให้บุคคลได้เรียนรู้จากผู้อื่น แลกเปลี่ยนความรู้ และสร้างความเข้าใจใหม่ๆ นอกจากนี้ยังช่วยในการพัฒนาทักษะส่วนบุคคลและอาชีพ
  5. ความเชื่อมั่นและการนำเสนอตนเอง: ทักษะ การสื่อสารที่ดีช่วยให้บุคคลสามารถนำเสนอความคิดและความรู้สึกของตนได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นในสถานการณ์ทางสังคมหรือในสถานที่ทำงาน สิ่งนี้ส่งผลดีต่อการสร้างภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นในตนเอง

 

ทักษะ การสื่อสารมีกี่รูปแบบ

  1. การสื่อสารแบบเวอร์บัล: ทักษะ การสื่อสารนี้เกี่ยวข้องกับการใช้คำพูดในการสื่อสาร การพูดให้ชัดเจน การใช้ภาษาที่เหมาะสม และการเป็นผู้ฟังที่ดีเป็นส่วนสำคัญในการสื่อสารแบบเวอร์บัลที่มีประสิทธิภาพ
  2. การสื่อสารแบบนอนเวอร์บัล: นี่คือทักษะ การสื่อสารผ่านท่าทาง การแสดงออกทางใบหน้า การสัมผัส และภาษากายอื่นๆ การรับรู้และการใช้การสื่อสารแบบนอนเวอร์บัลอย่างเหมาะสมสามารถช่วยเพิ่มความเข้าใจและประสิทธิภาพในการสื่อสารได้
  3. การฟัง: การฟังไม่ใช่เพียงแค่การได้ยินสิ่งที่ถูกพูด แต่ยังรวมถึงการเข้าใจ การประเมิน และการตอบสนองต่อสิ่งที่ได้ยิน การเป็นผู้ฟังที่ดีช่วยให้การสื่อสารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างความเข้าใจร่วมกัน
  4. การสื่อสารแบบเขียน: นี่รวมถึงทุกอย่างตั้งแต่การเขียนอีเมลไปจนถึงการจัดทำรายงานหรือเอกสาร การเขียนที่ชัดเจนและมีโครงสร้างที่ดีช่วยให้สามารถถ่ายทอดข้อความได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

วัตถุประสงค์ของทักษะ การสื่อสาร

  1. ความชัดเจนและความกระชับ: ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารแบบเวอร์บัลหรือเขียน ความชัดเจนและความกระชับเป็นสิ่งสำคัญ การสื่อสารของคุณควรตรงประเด็นและหลีกเลี่ยงความสับสนหรือความไม่แน่นอน
  2. การฟังแบบมีส่วนร่วม: การฟังไม่ใช่เพียงการรอคอยโอกาสที่จะพูดต่อ แต่เป็นการให้ความสนใจอย่างเต็มที่และพยายามเข้าใจมุมมองของผู้พูด การฟังแบบมีส่วนร่วมช่วยให้เกิดการสื่อสารสองทางที่มีประสิทธิภาพ
  3. การเข้าใจบริบท: การรับรู้และการเข้าใจบริบททางสังคมและวัฒนธรรมสามารถช่วยให้เราเลือกวิธีการสื่อสารที่เหมาะสม การรู้จักปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์และผู้รับสารที่แตกต่างกันเป็นส่วนสำคัญของการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
  4. การให้และรับข้อเสนอแนะ: การมีทักษะ การสื่อสารทั้งการให้และรับข้อเสนอแนะอย่างสร้างสรรค์เป็นส่วนหนึ่งของการสื่อสารที่ดี ข้อเสนอแนะช่วยให้เราเรียนรู้จากประสบการณ์และปรับปรุงทักษะการสื่อสารของเรา
  5. การใช้เทคโนโลยี: ในยุคดิจิทัล การใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง การเรียนรู้วิธีการใช้งานเครื่องมือและแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญ

 

การพัฒนาทักษะ การสื่อสารและการมีทักษะการสื่อสารที่ดีเป็นสิ่งที่สำคัญที่ต้องฝึกฝนและการตระหนักรู้อย่างต่อเนื่อง การใส่ใจในการปรับปรุงทักษะเหล่านี้สามารถนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น ความสำเร็จในอาชีพ และการปรับปรุงคุณภาพชีวิตโดยรวม การเพิ่มประสิทธิภาพทักษะการสื่อสารไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงวิธีที่เราพูดหรือเขียน แต่ยังรวมถึงการพัฒนาความเข้าใจในบริบท ผู้รับสาร และวัตถุประสงค์ของการสื่อสารของเราด้วย

หลักสูตร Facebook Ads & Marketing สำหรับปี 2562

Facebook Ads นั้นจะมีรูปแบบการโฆษณาหลายแบบครอบคลุมตั้งแต่ การโฆษณาไปยังเว็บไซต์ โปรโมทโพสต์ โปรโมทเพจ เพิ่มจำนวนการติดตั้งแอพ เพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมงานกิจกรรม เพิ่มจำนวนผู้เข้ามารับสิทธิ์ข้อเสนอ และเพิ่มจำนวนการรับชมวิดีโอ สำหรับร้านค้าทั่วๆไปใน Facebook มักอาศัยการขายสินค้าโดยการเปิดเพจเป็น ร้านค้า งานโฆษณาหลักๆ จึงอยู่ที่การโปรโมทเพจและโปรโมทโพสต์

หลักสูตรสอนโฆษณา Facebook Ads ที่ครบเครื่อง ครอบคลุม และเจาะลึกทุกขั้นตอนการซื้อโฆษณา Facebook จบในคอร์สเดียว สอนเน้นตั้งแต่พื้นฐาน ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ 2 วันเต็ม

– วิธีการวิเคราะห์คู่แข่ง จนไปถึงการนำข้อมูลของคู่แข่งมาปรับใช้

– ได้รู้วิธีคิดเรทคะแนนของ Facebook และผลของคะแนนส่งผลอย่างไร

– รู้วิธีการเลี่ยง การขายสินค้าที่ Facebook ไม่ให้จำหน่าย ลงโฆษณายังไงไม่ให้โดนแบน และโฆษณาผ่าน

– เทคนิคการเก็บฐานข้อมูลลูกค้าอย่างถาวร และนำมาใช้อย่างได้ผล

– เทคนิคการทำให้เพจมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น และเพิ่มการพบเจอในการค้นหาใน Facebook

– สามารถวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย และรูปภาพที่จะใช้

– จริงหรือไม่ การจ่ายเงินโฆษณาเยอะจะขายดีกว่า

– เทคนิคการเขียน 4 บรรทัดขั้นเทพ เขียนยังไงให้คนอ่านและหยุดดู

– เทคนิคในการโฆษณา เข้าใจและใช้เป็น ในฟังก์ชั่นเครื่องมือของ Facebook

สัมมนา Affiliate Marketing

อบรม Affiliate Marketing

วันที่ 25 ต.ค. 2561
เวลา 10.00 – 18.00 น.
คอนโด ไดมอนด์สุขุมวิท ชั้น 1

มาทำความรู้จักกับ Affiliate อีกวิถีทางของแนวทางการทำการตลาดบนอินเตอร์เน็ตในรูปแบบใหม่ หรือการเป็นผู้แทนประชาสัมพันธ์ ตัวแทนขาย คนช่วยขาย คนเชียร์ผลิตภัณฑ์ และก็รวมถึงการรีวิวผลิตภัณฑ์ โดยคนกลุ่มนี้จะได้รับผลตอบแทนแบบค่านายหน้าจากผู้ครอบครองผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้น แล้วก็วิธีการทำ Affiliate นั้นง่ายอย่างยิ่ง เพียงช่วยโฆษณาผลิตภัณฑ์บนเว็บ หรือทาง Social Media ของตนอย่าง Facebook, Instagram หรือ Youtube ก็สามารถทำเป็น

– Affiliate Marketing 
เป็นอย่างไร?
– แนวทางนำลิงค์ (Get Link) ไปสร้างรายได้
– แนวทางตั้งค่าบัญชี ลิ้งค์แบนเนอร์ ย่อลิ้งค์
– แนวทางติด Banner บนเว็บ Facebook Page
– แนวทางตั้งค่าการค้นหา “เมตาแท็ก (Meta Tag)
– แนวทางสร้างเว็บฟรี ด้วยระบบบล็อก “Blogger.com”
– แนวทางตั้งค่า ชื่อ” คำชี้แจงแล้วก็ที่อยู่ของบล็อก 
– แนวทางเชื่อม Blog กับเครือข่ายสังคมทรงอำนาจ
– แนวทางเขียนเนื้อหาบทความที่ถูกหลัก (SEO)
– แนวทางใส่รูปภาพพร้อมการใส่ Keyword
– แนวทางการทำ “SEO” เพื่อบล็อกค้นหาเจอหน้าต้นบน Google
– แนวทางการทำ Backlink On Page – Off Page
– แนวทางตั้งค่า Page Plugin
– แนวทางตั้งค่าเพิ่มแถบป้ายลงในเว็บของคุณ
– แนวทางใส่ลิ้งค์เชื่อมระบบกับ Facebook Page และเว็บไซต์
– แนวทางการสร้าง YouTube